Love, Simon (8/10)
หนัง coming of age ก้าวพ้นวัยช่วงเปิดเผยตัวของคนเป็นเกย์ เห็นเขาบอกกันด้วยว่าเป็นหนังไฮสคูลเรื่องแรกจากสตูดิโอใหญ่ที่ตัวละครเอกเป็นเกย์ หนังอบอุ่นหัวใจมาก เราอาจจะไม่ได้มีประสบการณ์ร่วมกับช่วงเวลายากลำบากของการเปิดตัว แต่หนังสามารถสื่อสารช่วงเวลานั้นของออกมาได้ดีจนเราเข้าใจถึงความกลัว กลัวคนรอบข้างจะไม่ยอมรับ ยิ่งการเห็นคนเป็น LGBT ถูกล้อเลียนจนชินตายิ่งทำให้เกิดความกังวล แล้วไหนจะการเก็บเป็นความลับที่ยิ่งทำให้ตัวเองไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการสักทีโดยเฉพาะเรื่องของหัวใจ ก็อย่างที่คำโปรยหนังบอกไว้ว่า 'ไม่ว่าใครก็สมหวังได้รับความรักที่ยิ่งใหญ่' เพียงแต่ความรักที่ดีของคนเป็นเกย์มันดันต้องเริ่มจากการเปิดเผยตัวเนี่ยสิ ไม่แฟร์เลยจริง ๆ
-------------------------------
'ไซม่อน' (Nick Robinson) เด็กหนุ่มม.ปลายที่ชีวิตปกติทั่วไปดีพร้อมทุกอย่าง มีกลุ่มเพื่อนที่ดี, มีครอบครัวอบอุ่น, ตัวเขาก็มีความสุข ยกเว้นเพียงเรื่องเดียวคือการต้องเก็บความลับเรื่องตัวเองเป็นเกย์ไม่ให้ใครรับรู้ แต่ทว่าดันมีเพื่อนร่วมคลาสละครเวทีล่วงรู้ความลับของเขาโดยบังเอิญจากการเห็นอีเมลที่เขาคุยโต้ตอบกับ 'บลู' นักเรียนคนหนึ่งในโรงเรียนที่เปิดเผยตัวในบล็อกว่าเป็นเกย์แต่ไม่ได้ระบุว่าคือใคร เขาจึงถูกแบล็กเมล์แลกกับการรักษาความลับให้คงอยู่ ขณะเดียวกันเขาก็ต้องหาให้เจอว่าบลูคือใครกันแน่
.
เราโตมากับยุคที่หนังไฮสคูลล้วนพูดถึงแต่ความรักระหว่างชาย-หญิง ดังนั้น Love, Simon จึงถือเป็นหมุดหมายสำคัญมาก ๆ ที่หนังฉายวงกว้างเริ่มมอบพื้นที่ให้เกย์วัยรุ่นในแบบหนังโรแมนติก-คอมเมดี้ และตัวหนังก็เปิดโอกาสให้ได้เล่าถึงแง่มุมที่ชาย-หญิง เป็น straight (ชายจริงหญิงแท้) อาจจะไม่เข้าใจมาก่อน เพราะพวกเขาไม่ต้องกังวลเรื่องการเปิดเผยรสนิยมทางเพศเหมือนอย่างคนเป็นเกย์ ซึ่งมันเป็นเรื่องส่วนตัวมาก ๆ ที่คนเป็นเกย์นั้นเลือกจะเปิดเผยหรือยังไม่เปิดเผย เป็นสิทธิ์ของเจ้าตัวที่จะพูด ไม่ใช่สิทธิ์ของคนอื่นที่จะเที่ยวไปบอกใครต่อใครแทน
.
หนังใช้ความเป็นโรแมนติก-คอมเมดี้ เข้ามาขยายโลกการเปิดตัวของเกย์ช่วงวัยรุ่นได้ดีมาก ๆ การสนทนาโต้ตอบทางอีเมลกับบลูมันคือการได้เปิดเผยสิ่งที่เก็บซ่อนในใจไว้ตั้งนานกับคนที่เขาเข้าใจตัวตนของเรา เอาง่าย ๆ แค่เรื่องเล่าความฝันก็ชัดเจนแล้ว จริง ๆ เราก็สงสัยว่าคนเป็นเกย์เขาเริ่มรู้ตัวตอนไหน แล้วมั่นใจตอนไหน ซึ่งหนังก็มีถ่ายทอดมุมนั้นเหมือนกัน ทั้งคู่มีความเหมือนกันหลายอย่างที่ต่างฝ่ายต่างแลกเปลี่ยนส่งต่อแรงบันดาลใจให้แก่กัน หนังจึงมีความโรแมนซ์แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่เคยเห็นหน้ากันเลยก็ตาม เราลุ้นไปกับการตามหาบลู เพียงแต่ลึก ๆ แล้วเราค่อนข้างรู้สึกเห็นใจชะตากรรมความรักของตัวละครที่ต้องหลบซ่อน ตัวตนไม่ได้เปิดเผยจึงทำให้ความรักเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก ทั้งที่ความจริงแล้วทุกคนสามารถมีความรักที่ดี มีความสุขได้โดยไม่ต้องปิดบังตัวเอง
.
.
.
.
ดูแบบซับไทยได้เลยใน Disney+ Hotstar: https://www.hotstar.com/th/movies/love-simon/1770020237
.
.
.
.
ดูรีวิวซีรีส์จากทุกค่ายได้ที่: http://bit.ly/2STE5O4
เลือกดูหนังใน Netflix: https://bit.ly/3Er394r
อ่านเกร็ดหนังคั่นเวลา: http://bit.ly/2QMsEVV
หรืออยากอ่านสาระยาว ๆ แก้เบื่อ: http://bit.ly/2QnHCmb
#หนังโปรดของข้าพเจ้า